ระเบิดสนั่นกรุง กลางแยกราชประสงค์



เป็นเหตุที่สร้างความหวาดผวาไปทั่วประเทศในชั่วข้ามคืน สำหรับเหตุระเบิดกลางกรุง บริเวณศาลพระพรหม แยกราชประสงค์ เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 17 สิงหาคม 2558 เป็นผลให้มีผู้เสียชีวิตทั้งชาวไทยและต่างชาติรวมกว่า 20 คน บาดเจ็บกว่า 100 คน ซึ่งจากการตรวจสอบพยานและกล้องวงจรปิดสามารถยืนยันได้ว่าผู้ก่อเหตุเป็นชายสวมเสื้อสีเหลือง และในขณะที่ยังไม่มีความชัดเจนใด ๆ ของคดีระเบิดราชประสงค์ ในช่วงบ่ายวันที่ 18 สิงหาคม ก็ได้เกิดเหตุระเบิดอีกครั้งบริเวณท่าเรือสาทร ซึ่งจากการสอบสวนพบคนร้ายเป็นชายสวมเสื้อสีฟ้า 
หลังจากติดตามเบาะแสคดีมานานถึง 12 วัน ในที่สุดเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับทหารก็ได้นำกำลังเข้าปิดล้อมพูลอนันต์ อพาร์ทเม้นท์ ย่านหนองจอก โดยจากการตรวจค้นห้องพักหมายเลข 412 และ 414 พบผู้ต้องหารายที่ 1 คือ นายบิลาล มูฮัมมัด ซึ่งในครั้งแรกอ้างว่าชื่อ นายอาเดม คาราดัก แต่สารภาพชื่อจริงในภายหลัง จากการตรวจค้นพบของกลางจำนวนมาก รวมถึงเสื้อผ้าที่สวมใส่ ขณะที่ในวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่าที่ ไมมูณา การ์เด้นโฮม เขตมีนบุรี ยังมีกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมาอาศัยอยู่ในห้อง 9106 จึงทำการปิดล้อมตรวจค้นพบหลักฐานเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบระเบิด และพบดินเทาซึ่งถือเป็นยุทธภัณฑ์ เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดของกลางทั้งหมด และจับกุมนายบิลาล (อาเดม) มาดำเนินคดี
ในการสอบสวนพยานที่เกี่ยวข้องกับพูลอนันต์ อพาร์ทเม้นท์ ทำให้ทราบว่า นอกจากนายบิลาล (อาเดม) แล้วยังมีกลุ่มคนร้ายที่เกี่ยวข้องร่วมกระทำความผิด เป็นผู้เริ่มเข้ามาพักอาศัยในห้อง 412 และ 414 รวม 4 คน ขณะที่ต่อมาทราบว่ามีคนร้ายอีกคนหนึ่งยังหลบหนีอยู่ในประเทศ จึงสามารถติดตามจับกุมตัวได้ที่ จ.สระแก้ว คือ นายเมียไรลี ยูซูฟู ซึ่งจากหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ พบรอยลายนิ้วมือแฝงของผู้ต้องหาทั้ง 2 คนปรากฏอยู่บนอุปกรณ์ที่ใช้ทำระเบิด 
จากการสอบสวน นายเมียไรลี ยูซูฟู ได้ซัดทอดไปยังคนร้ายอีกรายหนึ่งซึ่งเป็นผู้ที่ทำวีซ่าและจัดหาที่พักให้ ทั้งยังเป็นผู้ว่าจ้างให้ขับรถรับชายเสื้อสีฟ้าจากหน้ารามคำแหงไปส่งที่หน้าแม็คโคร ก่อนจะหลบหนีออกไปทางภาคใต้ นอกจากนี้ยังให้การว่า ผู้ที่ติดต่อนายบิลาล (อาเดม) ให้ช่วยเหลือ จัดหาวัตถุระเบิด เครื่องมือเครื่องใช้ คือนายอาบูดูซาตาร์ อบูดูเระห์มาน หรือ อิซาน และยังมีบุคคลสำคัญอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นคนไทยคือ นายอ๊อด พยุงวงศ์ หรือ นายยงยุทธ พบแก้ว 
          ทั้งนี้จากการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด พนักงานสอบสวนยืนยันระบุว่า กลุ่มผู้กระทำผิดชุดที่เข้ามาดำเนินการปฏิบัติการ ประกอบด้วย นายอิซาน, นายอับดุลเลาะห์มาน, นายซูแบร์ หรือชายเสื้อฟ้า, นายเมียไรลี ยูซูฟู และนายบิลาล มูฮัมมัด (อาเดม) ส่วนบุคคลอื่น ๆ เป็นผู้สนับสนุน ผู้ร่วมในการกระทำความผิด จากนั้นพนักงานจึงรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดออกหมายจับ เนื่องจากคดีวัตถุระเบิดนั้นอยู่ในอำนาจศาลทหารตามคำสั่ง คสช.
        สำหรับพยานหลักฐานที่ยืนยันได้ว่า นายบิลาล (อาเดม) เป็นคนเดียวกับชายเสื้อเหลือง สามารถพิสูจน์ได้จากหลักฐานการสอบพยานบุคคล การตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ และการตรวจสอบเทคนิคพิเศษตรวจอุปกรณ์พิเศษ จนกระทั่งผู้ต้องหาจำนนต่อหลักฐาน จึงได้รับสารภาพและนำชี้สถานที่เกิดเหตุได้อย่างถูกต้องชัดเจน ส่วนนายเมียไรลี ยูซูฟู ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพชัดเจน และชี้สถานที่ได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม นายซูแบร์ ชายเสื้อฟ้า ได้ทำการหลบหนีออกนอกประเทศไปเรียบร้อยแล้ว
 ส่วนมูลเหตุของคดีระเบิดกลางกรุงนี้ พล.ต.ต. ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 แถลงว่า มาจากการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐทำลายขบวนการและเครือข่ายการค้ามนุษย์ ซึ่งจากการสืบสวนเชื่อมั่นว่ามีกลุ่มบุคคลอยู่เบื้องหลังในการจ้างวาน โดยบุคคลหลายกลุ่มมีวัตถุประสงค์และความต้องการเดียวกัน อย่างไรก็ตามก็ยังไม่สามารถตัดประเด็นที่อาจจะมาจากการเมืองได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่พบว่า นายอ๊อด พยุงวงศ์ ชายไทยที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการระเบิด ได้เคยถูกออกหมายจับและเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์วางระเบิดที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมืองมาก่อน
          ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายเมียไรลี ยูซูฟู และนายบิลาล มูฮัมมัด (อาเดม) ฝากขังอยู่ในเรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี จนเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน อัยการศาลทหาร ได้สั่งฟ้อง นายอาเดม เป็นจำเลยที่ 1 และนายเมียไรลี เป็นจำเลยที่ 2 ทั้งหมด 10 ข้อหา ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดติดตามคดียังคงติดตามเบาะแสของ 15 ผู้ต้องหาตามหมายจับที่เหลือ จากหมายจับในคดีระเบิดราชประสงค์ทั้งสิ้น 17 หมายจับ ซึ่งยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ เพิ่มเติม
www.khaoden.com

0 comments:

Post a Comment